วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Vanilla ice cream

ชวนกันทำไอสครีมวานิลากันเถอะ
ไอสครีม(ไม่)ง่ายอย่างที่คิด ก่อนที่จะให้สูตรกะใครไปไม่ได้ต้องให้ทำด้วยไม่งั้นเดี๋ยวทำออกมาไม่อร่อยจะหาว่าสูตร(ผี)หลอก
ไม่ได้น่า วันนี้ก็เลยชวนกันมาทำไอศครีมกันดีกว่าก่อนที่ป๋าจะไปรับงาน Chef at Wishing tree ขอนแก่น

ก่อนอื่นต้องแยกไข่แดงเสียก่อน ป๋าเสียอย่างเรื่องไข่แดงเนียป๋าถนัดอยู่แล้ว

เอ้า..ป๋าได้ผู้ช่วยแล้วเหรอเนีย น้องปลา...

and then ก้อ ตวงนมนำไปต้มกับวานิลลาไม่ธรรมดาเพราะเราใช้ vanilla pod คุณภาพดีเพื่อความอร่อย

แล้วก็กรีดเอาเมล็ดวานิลลาใส่ลงไป ก็ใส่ไปทั้งฝักนั่นแหละจ้า

แล้วก็ตีไข่แดงกับน้ำตาลจนขึ้นรอจนนมต้มเกือบเดือดแล้วจึงค่อยๆเทใส่ไม่ยังงั้น ไอศครีมวานิลลาที่ได้ของเราคงจะเหม็นคาวน่าดู

ป๋าแรงดีเสียหนุ่มๆอายเชียวหละก็ดูซะก่อนไข่แดงกะน้ำตาลขึ้นฟูเชียว แล้วก็เทนมที่ต้มร้อนแต่ไม่ถึงกับเดือดลงในไข่แดง ตอนที่เทลงไป อะ อ๊ะ อย่าหยุดตีเชียว อ้อแล้วอย่าลืมช้อนฝักวานิลลาที่เราโยนลงไปเมื่อตะกี้ออกด้วยหล่ะ คนต่อไปเรื่อยๆแหละค่ะ ทีเราไม่ให้นมเดือดเต็มที่ก็เพราะว่าเดี๋ยวไข่ก็จะสุกเสียก่อนนะซิเจ้าค่ะ เอาละเมื่อเทนมจนหมดก็คนต่อไปสักครู่ พอเริ่มอุ่นๆ ก็ใส่วิ้ปปิ้งครีมให้เข้ากันแล้วนำใส่เครื่องตีไอศครีมเป็นอันเสร็จค่ะ ได้ไอศครีมทำเอง Ice cream homemade ฝีมือเราเองอร่อยไม่อยากบอกใครเชียวแหละเจ้าค่ะ

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Naka team

ประมวลภาพ Bryan's team go to Raw food work shop with Ani's Raw Chef
















Raw food (workshop at mom tri)

24 January 2010
Let go to workshop at Mom Tri's Villa Royale Phuket



เชฟ Ani Raw Chef มาเปิด work shop ที่ หม่อมตรีรอยัล Chef Ani ได้นำหนังสือเกี่ยวกับของหวานมาให้เราได้ยลโฉมก่อนที่จะวางขายเลยถือโอกาสให้ Ani เซ็นต์ชือเป็นที่ระลึกให้ด้วย หนังสือนี้น่าจะเป็นในหลายๆเล่มที่เชฟได้เขียนและขายตามเน็ตเพราะไม่ค่อยเห็นวางในร้านหนังสือในไทยเลยนี่ (แม้ก้ออยู่ในเมืองภูเก็ตไม่ค่อยได้ไปไหนเลยนี่น่า )แต่ที่โรงแรมก็มีหนังสือเกี่ยวกับ Raw Food หลายๆเล่มจากหลายๆเชฟ หลายๆคนที่เปิดร้านอาหาร Raw food เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานเพราะ Raw food ถึงจะกระแส นิยมไม่น้อยในต่างประเทศไม่น้อยแต่ในเมืองไทยยังเป็นอะไรที่ยังไม่แพร่หลายมากนัก ที่มีก้ออาจจะยังเข้าใจเท่าไหร่ ที่ Six sense ได้นำแนวอาหาร Raw food มาเป็นจุดขายและต่อเนื่องกับแขกที่มาใช้บริการโปรแกรมล้างพิษ(Puriti programs)ที่โรงแรมด้วยนับถึงวันนี้ก็เกือบสองปีแล้วที่ ห้องอาหาร Dinning at the point เปิดมาแต่อาจจะรู้จักเฉพาะแขกที่มาใช้บริการของ Six sense เท่านั้นในเมืองไทยกระแส Raw food ก็มีกระแสอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ได้เปรี้ยงปร้างเมากมายแต่อย่างไรเพราะการที่เราจะหันมาบริโภคแต่ผัก ผลไม้ และ ถั่ว ธัญพืช อย่างเดียวจะไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ใช่จะง่ายสำหรับผู้คนอย่างเราๆทั้งหลายที่ติดกับรสชาติอาหารธรรมดา ปิ้ง ย่าง ผัด ทอดถ้าจะต้องมารับแต่อาหารที่มีแต่ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืชและไม่ผ่านความร้อนก้อไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเราๆท่านๆ ถึงแม้จะรู้ว่า Raw Food มีประโยชน์กับร่างกาย แต่ก็ค่อยๆลดอาหารทอด ย่างให้น้อยลงและหันมาทานผัก ผลไม้สดมากขึ้น ก้อทำให้รู้สึกว่าร่างกายจะดีขึ้นอย่างรู้สึกได้

บรรยากาศที่



เชฟ Ani กำลังสาธิตเมนูต่างๆให้ผู้ที่สนใจ (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ)


Raw tom yom inspired Soupซุป หนึ่งในเมนูที่เชฟนำมาเสนอแต่ถ้าเป็นคนไทยก็บอกได้เลยว่ามันคือ ต้มข่าบ้านเรา เชฟเพิ่งจะมาเมืองไทยและหลงในรสชาติของต้มยำเลยคิดสร้างสรรค์เมนูที่ใกล้เคียงกับต้มยำบ้านเราแต่ความน่าจะเป็นก็น่าจะใกล้เคียงต้มข่านั่นเอง รสชาติดีและใกล้เคียงจนคาดไม่ถึงเลยทีเดียวสำหรับ Raw food






Almond Mango Breakfast Cobbler
เมนูสำหรับอาหารเช้าที่เชฟคัดมานำเสนอในวันนี้เชฟ Ani บอกว่า almond เป็นถั่วที่มากด้วยคุณค่าและมีประโยชน์และนำมารวมกับมะม่วงที่มีมากในฤดูกาลนี้ซึ่งรสชาติของมะม่วงถ้าสุกงอมเต็มที่ก็จะมีรสหวานกลมกล่อมอยู่แล้วแถมยังได้ความหวานมันของ honey,vanilla pod มาเพิ่มด้วยแล้วก้อเพิ่มหอมหวานสำหรับอาหารเช้ามื้อนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว