Coming from a family of chefs she broke the mold by choosing to be a pastry chef which differed from her parents and siblings who were all Chinese, Thai and European cuisine specialists. For her being a chef is not only an occupation it’s also her passion. She loves to create new healthy variations of desserts which are normally high in calories and sugar for those that enjoy a healthy lifestyle and can’t let go of their sweet tooth.
วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553
วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553
rambuton
เงาะ Rambutan
เงาะ เป็นผลไม้เมืองร้อน คนไทยเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า "เงาะ" เพราะลักษณะภายนอกของผล มีขนขึ้นตามเปลือกคล้ายกับผมบนหัวของคนป้าที่มีผมหยิกหยอยที่เราเรียกกว่า "เงาะซาไก" มีชื่อสามัญว่า Rambutan ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nephelium lappaceum L. เงาะมีถิ่นกำเนิดในคาบสมุทรมลายูทางเขตที่ราบตะวันตก จากนั้นจึงแพร่ขยายไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศเขตร้นอื่น ๆ เช่น ศรีลังกา และไปไกลถึงเกาะซานซิบาร์ ทวีปแอฟริกา ชาวมลายูเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า "rambut" ซึ่งหมายถึง "ผมหรือขน" ต่อมามีการเรียกเพี้ยนไปเป็น "rambutan" แต่ก่อนฝรั่งเห็นเงาะก็บอกว่า "ประหลาดมาก" จึงเปรียบเป็น "เชอร์รีมีขน" เงาะจากมลายูถูกน้ำเข้ามาปลูกทางภาคใต้ของประเทศไทย แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าตั้งแต่เมื่อใดเงาะเป็นพืชยืนต้นในวงศ์ Sapindaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับลิ่นจี่และลางสาด ลำต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่เปลือกสีเทาแก่ปนน้ำตาล ใบเป็นใบรวม มีใบยอด 2-4 คู่ ใบเขียวเป็นมัน ออกดอกสีเหลืองตามกิ่งหรือยอด ผลเงาะมีทั้งผลกลมแบน และยาวแบน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 4-5 ซม. เปลือกนอกหนา มีขนอยู่รอบผล ขนเป็นสีเหลือง แดง หรือชมพู เปลือกล่อนจากเนื้อ เนื้อเงาะสีขาวหรือนวลใสหุ้มเมล็ด รสหวาน หรือหวานอมเปรี้ยว ขึ้นอยู่กับพันธุ์ เงาะในประเทศไทยมีหลายพันธุ์ สามารถแยกประเภทได้ 3 ประเภท คือ พันธุ์ดั้งเดิม เช่น พันธุ์อากร สีนาก เจ๊ะหมง เปเรก นังเบอร์ลี ตาวี ซงลังงอร์ ฯลฯ พันปรับปรุง เช่น พลิ้ว1 พลิ้ว2 และเงาะพันธุ์ที่นิยมปลูกบริโภคซึ่งมีหลายพันธุ์เช่นกัน ดังนี้ พันธุ์โรงเรียน เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ลักษณะผลเมื่อแก่จัดเปลือกเป็นสีแดงสวย แต่ที่ปลายขนยังมีสีเขียว เป็นเงานยอดนิยมในเมืองไทย เนื่องจากมีรสชาติหวาน เนื้อกรอบล่อนจากเมล็ด เปลือเมล็ดบางไม่แข็ง พันธุ์โรงเรียน เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ลักษณะผลเมื่อแก่จัดเปลือกเป็นสีแดงสวย แต่ที่ปลายขนยังมีสีเขียว เป็นเงานยอดนิยมในเมืองไทย เนื่องจากมีรสชาติหวาน เนื้อกรอบล่อนจากเมล็ด เปลือเมล็ดบางไม่แข็ง ความเป็นมาของเงาะโรงเรียน เริ่มจากชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนชื่อ นาย เค หว่อง อาชีพทำเหมืองแร่ดีบุกเป็นผุ้นำเมล็ดพันธุ์จากปีนังเข้ามาปลูกที่บริเวณบ้านพักในอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อ พ.ศ. 2469 ต่อมาเลิกกิจการเหมืองแร่และได้ขายบ้านพักให้แก่กระทรวงธรรมการหรือกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน ทางราชการจึงปรับปรุงบ้านพักเพื่อใช้เป็นอาคารเรียน และย้ายโรงเรียนนาสารมาอยู่ที่นี่เมื่อ พ.ศ. 2479 ต้นเงาะที่อยู่ติดโรงเรียนนี้ขยายพันธุ์จนกลายเป็นที่นิยมบริโภคกันมาก จึงเป็นที่มาของชื่อว่า "เงาะโรงเรียน"พันธุ์สีชมพู เป็นเงาะพันธุ์พื้นเมืองที่เกิดในจังหวัดจันทบุรี เมื่อสุกจะมีสีชมพู ไม่แดงจัด มีขนยาว เปลือกหนาเนื้อเหนียว ไม่ล่อน รสหวาน ปลูกมาในภาคตะวันออกมีข้อเสียคือ เก็บได้ไม่นาน เนื้อเป้นน้ำและขนอ่อนช้ำง่าย พันธุ์สีทอง เป็นพันธุ์ดังเดิม มีปลูกในจังหวัดจันทบุรีและตราด ส่วนใหญ่พ่อค้าคนกลางจะนำมาขายปนกับเงาะโรงเรียน เนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงกัน ลักษณะเด่นคือผลใหญ่มาก ขนยาวสีแดง ปลายมีสีเขียว เมื่อสุกเปลือกมีสีแดงเข้ม เนื้อมีสีขาวค่อนข้างใส เมล็ดค่อนข้างแบนสีขาวปนน้ำตาล เมื่อเก็บจากต้นใหม่ ๆ จะมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย แต่ถ้าทิ้งไว้ 1-2 คืน จะมีรสหวานแหลมขึ้นและมีกลิ่นหอม พันธุ์น้ำตาลกรวด เป็นเงาะพันธุ์ผสมระหว่างพันธุ์บางยี่ขันและพันธุ์โรงเรียน ผลมีลักษณะคล้ายเงาะโรงเรียนเมื่อเริ่มสุกผลจะมีสีเหลืองเข้ม โคนขนสีชมพุและส่วนปลายขนมีสีเขียวอ่อนอมเหลือง เมื่อสุกเต็มที่ดคนขนจะขยายห่างกัน เปลือกผลค่อนข้างหนา เนื้อสีขาวขุ่น เมื่อห่ามมีรสเปรี้ยวอมฝาด แต่เมื่อสุกเต็มที่จะมีรสหวานแหลม กลิ่นหอม เนื้อกรอบล่อนจากเมล็ด และมีเปลือกเมล็ดติดเนื้อค่อนข้างมาก เมล็ดแบนค่อนข้างกว้างและสั้นมีสีขาวอมเหลืองคล้ายงาช้างเงาะที่ปลูกในภาคใต้และภาคตะวันออกจะออกสู่ตลาดไม่พร้อมกัน เงาะจากภาคตะวันออกจะออกสุ่ตลาดประมาณเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ส่วนเงาะจากภาคใต้ออกสู่ตลาดประมาณเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน แหล่งปลูกเงาะที่สำคัญอยู่ที่จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด และสุราษฎร์เงาะเป็นผลไม้กินสด นำมาคว้านเมล็ดออก เสิร์ฟสดก็ได้หรือนำไปทำเป็นเงาะลอยแก้ว หรือแปรรูปเป็นเงาะบรรจุกระป๋อง
คุณค่าอาหารและสรรพคุณ
เงาะ มีวิตามินซีสูงถึง 47 มิลลิกรับต่อน้ำหนัก 100 กรัม และมีสารอาหารอีกมาก เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เป็นต้น เงาะจัดเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน จึงช่วยแก้อาการท้องร่วงชนิดรุนแรงได้
วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553
ปรเะโยชน์ของถั่ว
นานาประโยชน์ของถั่ว 9 ชนิด
คำว่า “ถั่ว” หลายคนอาจมีความรู้สึกมันปากอยากเคี้ยวกันยกใหญ่ แต่ทราบหรือไม่ว่า ถั่วนอกจากจะเป็นของขบเคี้ยวให้ท่านสนุกปากยามว่างหรือดู ภาพยนตร์ แล้ว ถั่วยังเป็นตัวกระตุ้นพลังภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงชั้นยอดอีกด้วย
ถั่วเหลือง เป็น พืชที่มีสารอาหารสูงที่สุดในบรรดาเมล็ดพันธุ์ทั้งหมด และสามารถนำมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นถั่วงอก เต้าหู้ เทมเป้ โยเกิร์ต แป้ง นม มิโซะ และซีอิ๊วขาว ถั่วเหลืองประกอบด้วยไฟโตเอสโตรเจนที่เรียกว่าโอโซฟลาโวน มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ช่วยควบคุมอาการที่เกี่ยวเนื่องกับการหมดประจำเดือนทั้งยังช่วยป้องกัน มะเร็ง ในถั่วเหลืองยังอุดมด้วยวิตามินอีคอยต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินบีที่มีบทบาทในการบำรุงระบบประสาทและช่วยร่างกายต่อสู้กับความ เครียด
Snow pea ถั่วลันเตา ถั่วมีมากด้วยปริมาณวิตามินบี ช่วยรักษาระดับพลังงานและสร้างเนื้อเยื่อประสาทและกล้ามเนื้อ ใยอาหารสูงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และการย่อยมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีวิตามินบี5 ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และวิตามินซีต้านอนุมูลอิสระ
Cashew nutม็ดมะม่วง หิมพานต์ เป็นแหล่งของวิตามินบี ที่ช่วยรักษาเส้นประสาทและเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อของร่างกาย ตลอดจนเสริมความต้านทานต่อความเครียด และยังมีแร่ธาตุสำคัญสำหรับสุขภาพภูมิคุ้มกัน รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระซีลีเนียมที่จำเป็นต่อการผลิตแอนติบอดี และสังกะสีซึ่งใช้ต่อสู้กับ ไวรัส ยับยั้งเซลล์มะเร็ง แถมยังช่วยลด คอเลสเตอรอลได้อีกด้วย
Almond อัลมอนด์ เป็นแหล่งที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันมะเร็ง ในอัลมอนด์ 100 กรัม จะมีวิตามินอี 24 มิลลิกรัม และยังเป็นแหล่งของแร่ธาตุแคลเซียมที่ป้องกันไวรัส อัลมอนด์ยังมีเลทริลที่เชื่อว่าเป็นสารประกอบที่ต่อสู้กับเนื้องอกได้อย่าง มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีสังกะสีสูง ช่วยสร้างความแข็งแรงให้ภูมิคุ้มกันและทำให้แผลหายเร็ว อัลมอนด์เต็มไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่ให้คุณค่าทางสารอาหาร จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้
Hazelnut เฮเซลนัต มีกรดไขมันโอเมก้า 9 ที่ดีต่อสุขภาพในปริมาณสูงมาก และยังมีวิตามินอีต้ามอนุมูลอิสระในปริมาณสูงเช่นกัน จึงช่วยป้องกันร่างกายจากผลร้ายของมลพิษ และสารพิษต่างๆ แถมยังมีวิตามินบี6 ที่จำเป็นต่อการผลิตซิสทีอีนกรดอะมิโนที่สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน ไม่เพียงเท่านั้นเฮเซลนัดยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ รวมทั้งธาตุเหล็ก แคลเซียม และโปรตีนที่จำเป็นด้วย
Walnut วอลนัต ถั่วที่ประกอบด้วยกลูตาไธโอน สารต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่ช่วยพัฒนาเซลล์ภูมิคุ้มกันลิมโฟไซต์ และมีปริมาณกรดแอลฟาไลโนเลอิก ซึ่งจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและบำรุงหัวใจ มีวิตามินบีที่ให้พลังงานและพัฒนาการทำงานของสมอง นอกจากนี้วอลนัตยังมีวิตามินอีที่ดีต่อการรักษาผิวพรรณให้แข็งแรง
Pinenut เมล็ดสน มีแร่ ธาตุสังกะสีที่ต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับต่ำ และบำรุงหัวใจให้แข็งแรง วิตามินอีในเมล็ดสนจะช่วยป้องกันร่างกายจากผลเสียที่เกิดจากมลภาวะ และเป็นแหล่งของแมกนีเซียมซึ่งช่วยบรรเทาอาการแพ้ด้วย
Brasil nutถั่วบราซิล เป็นแหล่งของซีลีเนียมที่ดีที่สุด ซีลีเนียมเป็นแร่ธาตุต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำให้การตอบสนองของแอนติบอดีในระบบภูมิคุ้มกันเป็นปกติ ช่วยป้องกันมะเร็ง โรคหัวใจ และช่วยให้อ่อนกว่าวัย ช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเนื้องอก วิตามินอีที่ทำงานร่วมกับซีลีเนียมในถั่วบราซิลจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิ คุ้มกัน และแร่ธาตุหลายชนิดในถั่วยังช่วยบรรเทาอาการอักเสบในร่างกายระบบการย่อย และทำให้ผิวพรรณสดใส
Pistachio nutพิสตาชิโอ ประกอบด้วยแคลเซียมแร่ธาตุที่ต่อต้านไวรัส และการกระตุ้นเซลล์ฟาโกไซต์ ประกอบกับมีแมกนีเซียมสูง ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และลดอาการแพ้ รวมทั้งอุดมไปด้วยวิตามินอี ที่ช่วยล้างพิษในร่างกาย และวิตามินบีซึ่งจำเป็นต่อระบบประสาทและเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อให้แข็งแรง