งา 
ธัญพืชต้านโรค
 ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะว่า 
เมล็ดพืชเล็ก ๆ อย่าง “เมล็ดงา” 
น่ะ จะมีประโยชน์มากมายเกินตัวขนาดนี้ 
ซึ่งมิใช่แค่ความหอม หรือความอร่อยของงาเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น 
แต่งายังเป็นพืชที่มากไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย
มากวิตามิน class="Normal__Char"> 
งา เป็นธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย 
อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 วิตามินบี 
2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 
6 วิตามินบี 9 และวิตามินไบโอติน 
โคลีน ไอโนสิตอล กรดพาราอะมิโนแบนโซอิค 
สารเหล่านี้จะช่วยบำรุงประสาทให้เป็นไปอย่างปกติ 
นอกจากนี้ในงายังมีกรดไขมันไลโนลีอิกอยู่มากด้วยเช่นกัน 
ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตและสามารถเก็บความชุ่มชื้นของผิวหนังได้ดี
หากท่านที่มีอาการเกิดจากระบบประสาท 
เช่น นอนไม่หลับ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง 
เป็นเหน็บชา ปวดเส้นตามตัว 
แขน ขา เบื่ออาหาร ท้องผูก 
หรือเมื่อยสายตา ควรหันมารับประทานงาเป็นประจำนะคะ 
เพราะสามารถป้องกันโรคเหล่านี้ได้ 
นอกจากนี้แล้วงายังเป็นอาหารต้านมะเร็งและช่วยชะลอความชราให้ช้าลงไปอีกด้วย
งาเป็นแหล่งโปรตีนและแร่ธาตุ class="Normal__Char"> 
 
ธาตุเหล็ก บำรุงเลือด class="Normal__Char"> 
 
ธาตุไอโอดีน ป้องกันโรคคอพอก class="Normal__Char"> 
 
ธาตุสังกะสี บำรุงผิวหนัง class="Normal__Char"> 
 
ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส 
บำรุงกระดูกและฟัน class="Normal__Char"> 
 
(ทางกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า 
งามีแคลเซียมากกว่าพืชผักชนิดอื่นถึง 
20 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่า class="Normal__Char"> 
พืชผักอื่น ๆ 20 เท่า ซึ่งธาตุทั้ง 
2 ชนิดนี้เป็นแร่ธาตุที่สำคัญมาก 
ๆ ในการเสริมสร้างกระดูก
ประโยชน์ที่ได้จากงา class="Normal__Char"> 
ทางการแพทย์ถือว่า งาเป็นอาหารที่สามารถบำรุงกำลังได้เป็นอย่างดีและยังให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย 
ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า 
นอกจากนี้ยังป้องกันโรคเหน็บชา 
ป้องกันอาหารท้องผูก บำรุงกระดูก 
บำรุงรากผม รักษาอาการนอนไม่หลับ 
และยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลไม่ให้มีมากเกินไป 
ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว 
ป้องกันโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดบางชนิด
สรรพคุณทางยา
ปัสสาวะ อุจจาระขัด เมล็ดงา 
20 – 25 กรัม แช่ในน้ำเดือด หรือต้มรับประทานขณะท้องว่าง class="Normal__Char"> 
 
ความดันโลหิตสูง เมล็ดงา 
น้ำส้ม ซีอิ๊วและน้ำผึ้งอย่างละ 
30 กรัม ผสมกับไข่ขาว 1 ฟอง คนให้เข้ากันแล้วต้มด้วยไฟอ่อน 
ๆ จนสุก รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นประจำ class="Normal__Char"> 
 
ไอแห้ง ไม่มีเสมหะ เมล็ดงา 
250 กรัม น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม 
บดรวมกับรับประทานครั้งละ 
15 – 20 กรัม จากนั้นนำผงที่ได้เติมน้ำเดือดไว้สัก 
2 – 3 นาที ดื่มขณะยังอุ่น ๆ 
วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
น้ำมันงาสูตรบำรุง class="Normal__Char"> 
 
กระตุ้นการงอกของเส้นผม 
โดยไปเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตรอบ 
ๆ รูขุมขนบนหนังศีรษะ class="Normal__Char"> 
 
เพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวพรรณ 
และต้านอนุมูลอิสระ class="Normal__Char"> 
 
บำรุงเส้นผม ป้องกันการแก่ตัวและยืดอายุเซลล์ผิวหนัง class="Normal__Char"> 
 
Tricks 
 
เด็กที่กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต 
หากได้รับประทานงาเป็นประจำร่างกายจะมีการเจริญเติบโต 
และยังสามารถเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง class="Normal__Char"> 
 
สุภาพสตรีวัยหมดประจำเดือน 
เนื่องจากผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว 
ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดน้อยลงอย่างมาก 
ทำให้มีการดึงแคลเซียมอกจากกระดูกมาใช้แทน 
ดังนั้นโอกาสที่จะเป็นโรคกระดูกเสื่อมจึงมีสูง 
ฉะนั้นควรหันมาบริโภคงามาก 
ๆ เพราะจะได้ช่วยเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกายอีกทางหนึ่ง class="Normal__Char"> 
 
Tips 
 
ใช้น้ำมันงาดิบนวดตัวในตอนเช้าก่อนอาบน้ำ 
ช่วยปรับระบบประสาทและระดับฮอร์โมนให้เข้าสู่สภาวะสมดุล 
ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลายความตึงเครียด class="Normal__Char"> 
 
ใช้น้ำมันงาดิบนวดตัว เพื่อขจัดอาการปวดเมื่อย 
คลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเข่า 
เคล็ดขัดยอก ทำให้กล้ามเนื้อไม่เหี่ยวย่น 
ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ เนื่องจากน้ำมันงาดิบสามารถซึมผ่านผนังได้ทุกชั้น
 
 
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น