Flaxseed / Linseed ปอ,ป่าน พืชจำพวก Linum
- พืชที่ให้เส้นใยลำต้น ทำผ้าลินิน class="Normal__Char">
เนื้อในของเมล็ดแฟลกซ์ เมื่อแช่น้ำในระยะเวลา
30 นาที เป็นต้นไป สามารถที่จะอุ้มน้ำได้
8 เท่า ของน้ำหนักตัวเอง
Flax สามารถป้องกัน/ต่อต้าน มะเร็ง
โรคหัวใจ โรคระบบย่อยอาหาร
โรคความดันโลหิตสูง โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ
โรคท้องผูก .....และยังช่วยปรับระดับฮอลโมนในร่างกายด้วย
Flaxseed Food or Drug?? - เมล็ดแฟลกซ์เป็นอาหารหรือยา
??
ในจำนวนเมล็ดพืช แฟลกซ์ สามารถสกัดน้ำมันมาใช้ได้และมีมากด้วย
ไขมันชนิดดี เช่น โอเมก้า3
โอเมก้า6 ซึ่งจำเป็น แต่เราผลิตเองไม่ได้
จึงต้องหาจากอาหารต่างๆ มาเสริมโอเมก้าทั้ง
2 ตัวนี้มีส่วนช่วยให้ ฮอร์โมนprostaglandins
and elcosanoids ไปเลี้ยงสมอง ระบบประสาท
ผิวหนัง ระบบสืบพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยป้องกันเลือดข้น
และจับกันเป็นก้อน หรืออีกนัยหนึ่ง
ก็หมายถึง การควบคุมให้เลือดมีความดันตามปกติ
Flax has a long History ประวัติอันยาวนานของแฟล๊กซ์ class="Normal__Char">
แฟลกซ์มีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตมนุษย์มายาวนานกว่า
พันปีแล้ว
มีรายงานการใช้แฟลกซ์เป็นอาหาร
มาตั้งแต่สมัยเบบีลอน (3000ปี
ก่อนคริสกาล)
ในยุโรปแฟลกซ์ถือเป็นอาหารที่ใช้ในการบำรุงกำลัง
มานานกาล
แม้ในปัจจุบันนี้ ในเยอรมันจะหาร้านที่ไม่ทำขนมปังที่ทำ
"ขนมปังแฟลกซ์และไรน์"
แทบจะไม่มีเลย น้ำมันในแฟลกซ์จะทำให้ขนมปังชุ่มชื้น
และ ยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้นกลุ่มคณะที่ปรึกษาสมาคมแฟลกซ์
ของแคนาดา รายงานว่า ในเยอรมัน
การบริโภคแฟลกซ์มากกว่า 60,000ตัน
/ ต่อปี ในการใช้ทำขนมปัง +
ซีเรียว หรือเฉลี่ย คนละ 1
กิโลกรัม / ปี หรือ 3 กรัม / วัน
Mucilage เมือกจากเมล็ดแฟลกซ์
มีประโยชน์ยังไง ??
ทำไมคนโบราณจึงใช้ แฟลกซ์
เป็นยาระบาย?
เปลือกนอกของเมล็ดจะมีกากมาก
ถึง 10% ของเมล็ด
เมื่อเปลือกนอกได้สัมผัสกับน้ำ
หรือ ของเหลว จะทำให้ขยายตัว
และ มีสภาพ ไหลลื่นเหมือนกาว
การจะใช้แฟลกซ์เป็นยาระบาย class="Normal__Char">
เมล็ดแฟลกซ์ทั้งเมล็ด 2 ช้อนโต๊ะ
(30 กรัม)
น้ำร้อนเดือด 1 แก้ว
คนให้เข้ากัน แล้วดื่ม ในขณะที่ยังไม่ขึ้นอืด
มันจะไปอืดในท้องภายหลัง
แล้วจะช่วยระบบขับถ่าย
ถ้าเป็นโรคท้องผูกอย่างมาก
ให้ดื่ม 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก่อนอาหาร
อย่างไรก็ตาม การกินเมล็ดแฟลกซ์ในลักษณะนี้
ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึม
คุณค่าต่างๆได้ นอกจากเมื่อผิวของมันถูกกระเทาะ
นอกจากนี้เมล็ดแฟลกซ์ยังสมารถเป็นตัวสำคัญในการทำหน้าที่
รักษาลำไส้ / ระบบย่อยอาหาร
ที่เกิดจาก การรับประทานยาปฎิชีวนะ
ยาคุมกำเนิด ยาที่ใช้ใน คีโมธาราปี
หรือ ผู้ป่วยที่ใช้ยายบางชนิดเป็นเวลานานๆๆ
ซึ่งจะทำให้ท้องผูก หรือกลัวว่าจะมีสารตกค้างอยู่
Dr. Ernst Schneider กล่าวว่า ลำไส้ของผู้ป่วยที่ต้องฉายคีโมธาราปี
จะกลับสู่สภาพเดิม ได้เร็วขึ้น
เมื่อใช้เมือกแฟลกซ์ช่วย
หรือคนไข้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร
เมือกแฟลกซ์จะเป็นตัวเคลือบ
ทำหน้าที่เหมือน วอลเปเปอร์
เลยทีเดียว
Fiber เส้นใยอาหาร class="Normal__Char">
เมื่อ 60 ปีก่อน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า
ไฟเบอร์-เส้นใยอาหาร ไม่มีคุณค่าอาหาร
ฉนั้นจึงไม่มีความสำคัญ จะเห็นได้จาก
การสีธัญพืชต่างๆ จะเหลือส่วนที่เป็นข้างในไว้เท่านั้นแต่หลังจากนั้น
พวกเขาก็ได้เริ่มสนใจกับประชากรที่อาศัยอยู่ในประเทศด้อยพัฒนา
เขาเหล่านั้นกินอาหารที่มีไฟเบอร์-เส้นใยอาหารสูง
และไม่มีปัญหา ท้องผูก หรือ
โรคอื่นๆๆ เช่น Crohn's diease, diverticultitis
และ คอเลสตอรอลสูง ซึ่งจะพบมากในประเทศที่เจริญทางอุตสาหกรรม
ในทันทีที่ค้นพบนั้น ผู้คนก็ให้ความสนใจกับคำนี้ทีเดียวไฟเบอร์ในแฟลกซ์เป็นส่วนประกอบของเปลือก
และมีส่วนผสมของน้ำมันที่เนื้อของมัน
ร่างกายของเราไม่อาจย่อยสลายได้หมด
แต่แบคทีเรียในลำไส้ใช้เป็นอาหารได้
แฟลกซ์มีไฟเบอร์ด อยู่
2 ชนิด
- soluble ไฟเบอร์ดที่ละลายได้
- insoluble ไฟเบอร์ที่ละลายไม่ได้
soluble ไฟเบอร์ที่ละลายได้ class="Normal__Char">
จะมีอยู่ถึง 1/3 ของเมล็ดแฟลกซ์
มีส่วนช่วยลดคอเลสโตรอล และ
ปรับระดับกลูโคสในเลือด จึงเป็นข่าวดีสำหรับคนที่เป็นเบาหวาน
insoluble ไฟเบอร์ที่สารละลายไม่ได้ class="Normal__Char">
มีอยู่ประมาณ 2/3 ของไฟเบอร์ทั้งหมด
ไฟเบอร์ตัวนี้ จะทำความสะอาดลำไส้
คล้ายไม้กวาด ทำให้ท้องไม่ผูก
หนังสือ British Journal of Nutrition ได้รายงานว่า
กลุ่มคนที่ลองกินแฟลกซ์ซีด
ภายใน 4 อาทิตย์ มีน้ำตาลในเลือดลดลงถึง
27 % ส่วนระดับคอเลสโตรอลก็ลดลง
7% และการขับถ่ายก็ดีขึ้นด้วย
เพราะไฟเบอร์ดในแฟลกซ์เป็นตัวช่วยทำให้ขับของเสียออกเร็ว
ไม่มีการหมักหมม จนเป็นท๊อกซิก
ซึ่งอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของ
"มะเร็งลำไส้ใหญ่" ได้
Lignans ฮอร์โมนชนิดหนึ่งในแฟลกซ์ class="Normal__Char">
Lignans เป็นพืชชนิด estrogens (phytoestrogens)
ซึ่งอาจจะเป็นตัวสำคัญ ในการป้องกัน
มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งมดลูก และ มะเร็งลำไส้ใหญ่
ฮอร์โมนในพืชชนิดนี้ นอกจากจะทำตามที่กล่าวมาแล้วนั้น
ยังเป็นตัวช่วยให้ กระดูก
และเนื้อเยื่อแข็งแรง ทำงานตามปกติ
ป้องกันมะเร็งถุงน้ำดีอีกด้วย
!!!
Lignans ยังช่วยขับ estrogen ส่วนเกินให้ออกจากร่างกายด้วย
ทำให้ชะลอการเติบโตของ tumor
- เนื้องอก เป็นที่รู้กันว่า
ผู้หญิง แมกซิกัน ญี่ปุ่น
และจีน กินอาหารที่มีไฟเบอร์
และ Lignans สูง มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมน้อยกว่า
หญิงที่บิรโภคอาหารแบบอเมริกายิ่งกว่านั้นแล้ว
เหล่านักวิจัยเชื่อว่า lignans
มีส่วนช่วยเหลือ / ป้องกัน
โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
และ อาจรวมถึง โรคหืดหอบ ทั้งยังช่วยป้องกัน
แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อราได้อีกด้วย....ทั้งยังช่วยลดโอกาส
การเป็นโรคกระดูกพรุน - osteoporosis
และ โรควัยทอง – maenopause
The Wonder Grain มีอะไรพิเศษในแฟลกซ์ class="Normal__Char">
แฟลกซ์ มีวิตามิน A, B, B2, C, D และ
E และแร่ธาตุอีกมาก น้ำมันที่มีอยู่ในแฟลกซ์ก็มีมากถึง
35 % - 45% แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูชนิด
ประเภท ดินฟ้าอากาศที่ปลูก
ของแฟลกซ์พันธ์นั้นๆด้วย
An Almost Perfect Protein ควรใช้อะไรกระตุ้นโปรตีนในเมล็ดแฟลกซ์
??
แฟลกซ์มีโปรตีนเกือบครบทุกชนิดที่ร่างกายต้องการ
กรดอะมิโน ในแฟลกซ์จะผสมกันได้ดีกับส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์
เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว หรือ
คอตเต๊ตชีส (cottage cheese)
ฉะนั้นเมื่อเราบริโภคเมล็ดแฟลกซ์
กับผลิตภัณฑ์นม จะทำให้ร่างกายได้รับ
โปรตีน ครบถ้วน
Interesting Discoveries สิ่งมหศจรรย์ที่ค้นพบ class="Normal__Char">
Golden Flax จะมีคุณค่าและราคาแพงกว่า
Brown Flax เพราะขนาดใหญ่กว่า เปลือกอ่อนกว่า
และ รสชาติดีกว่า แต่จะให้น้ำมันน้อยกว่าแฟลกซ์สีน้ำตาล
(ถ้าเอามารีดน้ำมัน)
แฟลกซ์เหลืองทองนิยมนำมาใส่
ซีเรียล (Cereals) ขนมอบ
การจะใส่ใน ซีเรียส (Cereals) ....
ควรจะกระเทาะ หรือ บุบให้แตกเล็กน้อย
แต่ไม่ต้องถึงขนาดให้เนื้อและน้ำมันแตกออกมา
ข้อควรระวังในการซื้อเมล็ดแฟลกซ์ป่น
ไม่ควรจะซื้อแฟลกซ์บด/ป่น
มาใช้ เพราะการบด/ป่นละเอียดไว้ล่วงหน class="Normal__Char">้า จะทำให้น้ำมันแฟลกซ์
เกิดการออกซิไดซ์ (น้ำมันปนกับออกซิเจน)
ทำให้เหม็นหืนได้ ความร้อน
แสงสว่าง และอากาศ จะเป็นตัวทำให้เกิดการออกซิเดชั่น
น้ำมันที่เหม็นหืน ไม่ควรใช้บริโภคเพราะเป็นพิษ
และ เป็นตัวทำให้เกิดมะเร็งได้ขณะนี้ในตลาดมีเมล็ดแฟลกซ์บด/ป่นขาย
ห่อด้วยฟอยด์ศูนย์อากาศ บรรจุภัณฑ์เหล่านี้จะสามารถเก็บรักษาเมล็ดแฟลกซ์ให้สด
ควรดูวันหมดอายุ ไม่น้อยกว่า
3 เดือน เมื่อเปิดห่อแล้ว ต้องเก็บในขวดที่ปิดสนิท
เข้าตู้เย็นไว้ และต้องใช้ให้หมดภายใน
2 อาทิตย์ เมล็ดแฟลกซ์ที่ผลิตจากท้องถิ่นที่มีอากาศเย็นจะมีคุณภาพของน้ำมันโอเมก้า
3 มากกว่า
อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยง
น้ำมันที่ผ่านการ "refined"
- กลั่นกรอง ด้วยความร้อนสูง
Flax Oil น้ำมันแฟลกซ์
น้ำมันแฟลกซ์เป็นน้ำมันที่มีกรดไม่อิ่มตัวสูง
จึงเหมาะกับร่างกายเรามาก class="Normal__Char"> แต่เพราะไขมันไม่อิ่มตัวจะดูดออกซิเจนเร็วมาก
ทำให้มีกลิ่นหืน เราจึงต้องใช้น้ำมันนี้
ด้วยความระมัดระวัง คือต้องเก็บในขวดทึบ
อากาศและแสงผ่านได้น้อย การปรุงอาหารที่เหมาะกับน้ำมันแฟลกซ์นี้
คือ อาหารที่ไม่ต้องผ่านความร้อน
เช่น น้ำสลัด สำหรับผักสด
สลัดมันฝรั่ง สลัดแครอท สลัดกะหล่ำปลีขาว-แดง
น้ำมันแฟลกซ์ควรจะเลือกประเภทที่สกัดโดยไม่ผ่านกรรมวิธีและความร้อนสูง
(coldpress)
ไม่ควรซื้อ เมื่อผ่านการผลิตมาแล้ว
6 เดือน ควรเลือกซื้อขวดเล็ก
และใช้ให้หมดภายใน 3 อาทิตย์
หลังเปิดขวดแล้ว
การใช้เมล็ดแฟลกซ์
ตามร้านขายอาหารออร์เกนิค class="Normal__Char">อาหารสุขภาพ
จะมีแฟลกซ์บรรจถขายหลายขนาด
ตั้งแต่ เล็ก กลาง ใหญ่ ทางที่ประหยัดที่สุดคือ
ซื้อห่อใหญ่ แล้วเก็บรักษาในขวด/โถ
ที่ปิดกันอากาศ เก็บไว้ในตู้เย็น
เมล็ดแฟลกซ์มีหลายชนิด ให้เลือก
ส่วนใหญ่จะเป็น
- เมล็ดสีน้ำตาลแดง ขนาดเล็ก
เกือบแบน รูปวงรีและแหลมด้านนึง
ขนาดจะใหญ่กว่าเมล็ดงา และมีกลิ่น/รสคล้ายถั่ว
- เมล็ดสีเหลือง/ เหลืองทอง
เมล็ดจะใหญ่กว่าเล้กน้อย
เปลือกจะอ่อนกว่า กลิ่นและรสจะเหมือนกัน
เหมาะในการผสมกับซีเรียล
ประโยชน์ของการกินเมล็ดแฟลกซ์และน้ำมันแฟลกซ์ class="Normal__Char">
จะเป็นการเปรียบเทียบระหว่าง
ผลทางชีวเคมี กับ ผลทางการวิจัย
เทียบกันได้ดังนี้...
ผลทางชีวเคมี class="Normal__Char">
1. ปรับกล่มไขมันในร่างกายให้เป็นปกติ
2. ปรับความสมดุล ของโพรสแกลนดินส์
3. ลดความอยากอาหาร, ลดการดูดซึมน้ำตาลกลูโคสในระบบอาหาร
4. รักษาระดับอินซูลิน - น้ำตาล
ในเลือด
5. มีประสิทธิภาพทำให้เกิดภูมิคุ้มกันร่างกาย
6. เพิ่มเส้นใยอาหาร และอโรบิดแบคทีเรียในการย่อยอาหาร
7. ลดคอเลสโตรอล และ ไขมันในเลือด
8. ช่วยให้ระบบเมทาโบลิซึม
ทำงานได้ดีขึ้น
9. เพิ่มระดับ estrogen ในเลือด
10. ส่งเสริมการทำงานของตับ
ผลทางการวิจัย class="Normal__Char">
1. ผิวอ่อนนุ่ม ผมเงา มือนิ่ม
ความแข็งแกร่งอดทนของร่างกายดีขึ้น
มีกำลังวังชา กระฉับกระเฉง
2. ปรับกล้ามเนื้อให้เข้าสู่สภาพปกติ
เช่น ช่วงก่อน-หลังมีรอบเดือน
หรือ ช่วงการเข้าสู่วัยทอง
3. ยับยั้งความอยากกินอาหารจำพวกที่มีคาร์โบไฮเดรตได้
4. ป้องกันความอยากกินของหวาน
ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ทนมากขึ้น
5. ช่วยลดอาการอาหารเป็นพิษ
กับโรคบางชนิดได้ผลดียิ่งขึ้น
6. ช่วยกระตุ้นให้แบคทีเรียในกระเพาะอาหารทำหน้าที่กำจัดแก๊ซ
ระบบการขับถ่าย ทวารหนักอักเสบ
7. ระบบสูบฉีดโลหิตทำงานได้ดีขึ้น
ทำให้สมองทำงานดีขึ้น คิดอะไรได้ว่องไว
8. ช่วยให้ร่างกายสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันได้
ร่างกายทนต่ออากาศหนาว/เย็น
ได้ดีขึ้น
9. ช่วยลดปัญหาต่างๆ ในช่วงเข้าสู่วัยทอง
10. ลดและ รักษาระดับการสูบฉีดเลือด
วิธีผสมแฟลกซ์ในอาหาร
ควรกิน แบบดิบๆ 1 ช้อนโต๊ะ
/ วัน
สำหรับอาหารเช้า
- เติมในข้าวต้ม ในซีเรียลแบบร้อน
ในโยเกิร์ต ในน้ำเปรี้ยว
สำหรับซุป
- เมล็ดแฟลกซ์ 1-2 ช้อนโต๊ะ + น้ำ
2-3 ถ้วย
นำไปต้มจนเดือด ยกลง กรองน้ำออก
แล้วนำน้ำที่ได้ ไปผสมในน้ำซอส,
หรือน้ำราดผักนึ่ง......อาจจะใช้น้ำที่ได้
2-3 ช้อนโต๊ะ ผสมในน้ำซุปไก่ที่เตรีมไว้ก่อนแล้ว
จะทำให้ได้น้ำซุปที่ข้นขึ้น
และมีประโยชน์มาก
โปรดจำไว้ว่า อย่าต้มเมล็ดแฟลกซ์ป่น
แต่ใช้เติมลงในซุปที่ยกลงจากเตาและพักไว้
5 นาทีแล้ว เมล็ดแฟลกซ์ที่เหมาะจะใช้
ควรจะเป็นแบบสีเหลืองทอง
สำหรับคนที่กินเจ หรือ มังสวิรัต
แนะนำให้แช่เมล็ดแฟลกซ์ในน้ำ
กรองเอาน้ำนั้นไปใช้ในลักษณะ
เจล แทนไข่ ในตำราต่างๆได้
การทำขนมปัง โดยการใส่เมล็ดแฟลกซ์ class="Normal__Char">
การทำขนมปังอาจผสมเมล็ดแฟลกซ์ลงไปด้วย
ตามที่แนะนำมากับตำรานั้นๆ
ถ้าต้องการจะใช้ทั้งเมล็ด
(Whole Flaxseed) ต้องนำไปแช่น้ำ อย่างน้อย
1 ชั่วโมง ก่อนนำมาผสมกับเครื่องปรุงอื่นๆ
เพราะน้ำที่อุ้มเมล็ด จะช่วย
ลดความร้อนในขณะอบ ไม่ทำให้เมล็ดไหม้
เมล็ดแฟลกซ์ก็จะไม่เสียโอเมก้า
3 และ คุณสมบัติอื่นๆในตัว
ถ้าคิดตามหลักสมัยเด็กที่เราเรียนมา
จุดเดือดของน้ำจะต่ำกว่าจุดเดือดของน้ำมัน
น้ำจะเดือดที่ 100 องศา C ส่วนน้ำมันจะเดือดที่อุณหภูมิสูงกว่า
และถ้า ยังจำได้ในบทต้นๆที่บอกไว้ว่า
เมล็ดแฟลกซ์สามารถอุ้มน้ำได้ถึง
8 เท่าขอน้ำหนักตัว......ฉะนั้นเมื่อเราอบขนมปัง
ที่อุณหภูมิสูงและนาน น้ำมันในเมล็ดแฟลกซ์จะยังอยู่
ไม่สูญสลาย เพราะถึงแม้ว่า
น้ำที่ถูกอุ้มไว้จะระเหยไปบ้าง
แต่ไม่ทั้งหมด
เมล็ดแฟลกซ์สามารถใช้แทนแป้ง(ในขนมปัง)
ได้ถึง 10 - 30%
ถ้าใส่มากขนมปังที่ได้จะมีเนื้อแน่น
ถ้าใส่น้อยก็จะได้ขนมปังที่เบาขึ้น class="Normal__Char">
การทำขนมปังเมล็ดแฟลกซ์กับโยเกิร์ต/นมเปรี้ยว
จะทำให้ขนมปังที่ได้มีรสดี
มีกลิ่นหอมคล้ายถั่ว (nutty flavor)
นอกจากนี้ยังสามารถผสมแฟลกซ์ป่น/บด
กับนมเปรี้ยว / โยเกิร์ต ในวอลเฟอร์
แพนเค้ก ได้อีกด้วย
Skin Care สำหรับผิวพรรณ class="Normal__Char">
เมล็ดแฟลกซ์ ยังสามารถช่วยปรับสภาพผิวหน้า
ผิวมัน ผิวแห้ง และมีจุดด่างดำ
เหมาะกับวัยรุ่นที่มีปัญหาเรื่องผิว
สามารถใช้วิธีการรักษาด้วยเมล็ดแฟลกซ์ดีกว่า
การใช้ผลิตภัณฑ์เคมีต่างๆ
วิธีทำมาสค์เมล็ดแฟลกซ์ class="Normal__Char">
1 ส่วน เมล็ดแฟลกซ์ป่น
1ส่วน Wheat bran ป่น
ใส่ในขวด สีชา (กั้นแสง) ปิดฝาให้แน่น
วิธีเตรียม
ตักส่วนผม 2 ช้อนโต๊ะ ใส่ชาม
เติมน้ำร้อนพอควร คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
วิธีใช้
1. ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า แล้วเอามาสค์ทาหน้า
คลึงเบาๆให้ทั่ว
2. พักไว้ 5-10 นาที น้ำมันในเมล็ดแฟลกซ์จะช่วยสมานผิว
ช่วยให้ผิวส่วนที่แห้ง ชุ่มชื่นขึ้น
3. ล้างออกด้วยน้ำ ซับหน้าให้แห้ง
สามารถใช้แทนสบู่ ล้างหน้าได้ทุกวัน
หรือ จะใช้เป็นสครับขัดตัวก็ได้
การใช้เมล็ดแฟลกซ์เป็นยาพอก
ยาสมานผิว
เมล็ดแฟลกซ์ที่กระเทาะเปลือกแล้ว
สามารถทำเป็นยาพอกแผลได้
ในกรณีที่ กล้ามเนื้อปวดเมื่อย
พกช้ำ ผิวที่โดนความร้อนลวก
บริเวณที่ปวดเพราะโรคไขข้ออักเสบ
(หนองแตก) แผลพุพอง
- เจ็บปวดกล้ามเนื้อ ที่เกิดจากการออกกำลังกาย ทำให้ปวดเมื่อย หรือ ผ class="Normal__Char">ิวท class="Normal__Char">ี่ม class="Normal__Char">ีรอ class="Normal__Char">ยเข class="Normal__Char">ียว class="Normal__Char">ช้ำ class="Normal__Char">เป็ class="Normal__Char">นจ้ class="Normal__Char">ำๆ เ class="Normal__Char">ช่น class="Normal__Char">เดิ class="Normal__Char">นชน class="Normal__Char">มุม class="Normal__Char">โต๊ class="Normal__Char">ะ .......ใช class="Normal__Char">้ได class="Normal__Char">้ผล class="Normal__Char">ดีม class="Normal__Char">าก
2. class="Normal__Char">โรค class="Normal__Char">ไขข class="Normal__Char">้ออ class="Normal__Char">ักเ class="Normal__Char">สบ class="Normal__Char">อาก class="Normal__Char">ารป class="Normal__Char">วดป class="Normal__Char">ระส class="Normal__Char">าท....จ class="Normal__Char">ะช่ class="Normal__Char">วยบ class="Normal__Char">รรเ class="Normal__Char">ทาแ class="Normal__Char">ละผ class="Normal__Char">่อน class="Normal__Char">คลา class="Normal__Char">ยขึ class="Normal__Char">้น
3. class="Normal__Char">การ class="Normal__Char">อัก class="Normal__Char">เสบ class="Normal__Char">ของ class="Normal__Char">อวั class="Normal__Char">ยวะ class="Normal__Char">ภาย class="Normal__Char">ใน เ class="Normal__Char">ช่น class="Normal__Char">กระ class="Normal__Char">เพา class="Normal__Char">ะ ซี class="Normal__Char">ดต์ class="Normal__Char">บวม
(เ class="Normal__Char">จ็บ class="Normal__Char">จี๊ class="Normal__Char">ดๆ, class="Normal__Char">ปวด) class="Normal__Char">หรื class="Normal__Char">อ อ class="Normal__Char">ากา class="Normal__Char">รปว class="Normal__Char">ดจา class="Normal__Char">กมี class="Normal__Char">ตะก class="Normal__Char">อนใ class="Normal__Char">นไต อา class="Normal__Char">การ class="Normal__Char">บวม class="Normal__Char">ของ class="Normal__Char">ถุง class="Normal__Char">น้ำ class="Normal__Char">ดี...... class="Normal__Char">จะช class="Normal__Char">่วย class="Normal__Char">ให้ class="Normal__Char">บรร class="Normal__Char">เท่ class="Normal__Char">าคว class="Normal__Char">ามเ class="Normal__Char">จ็บ class="Normal__Char">ได้ แต class="Normal__Char">่ต้ class="Normal__Char">องพ class="Normal__Char">อกอ class="Normal__Char">ย่า class="Normal__Char">งสม class="Normal__Char">่ำเ class="Normal__Char">สมอ
วิธีทำ
1. เมล็ดแฟลกซ์ป่น 1 ถ้วยตวง class="Normal__Char">
2. เติมน้ำเดือดให้ท่วม ทิ้งไว้
10 นาที
3. เมื่อผสมกันดีแล้ว เอามาละเองให้ทั่วผ้าขาวที่เตรียมไว้
(ตามขนาดที่เหมาะกับบริเวณที่จะพอก
- รวมด้านที่จะพัก ขวา/ซ้าย/บน/ล่าง
4. โดยพับด้านขวามากึ่งกลาง
แผ่นแฟลกซ์ละเลงไว้
5. พับด้านซ้ายมาจดตรงกลาง
6. พับด้านบน-ล่าง มาจดตรงกลาง
(ให้เกยกันบ้างก็ได้)
7. นำไปวางประคบ บริเวณที่ต้องการ
อาจจะใช้ผ้าอีกผืนห่อ ผูกให้ติดกับอวัยวะนั้นๆๆ
8. ห่อไว้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
หรือ ข้ามคืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น