วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

flax seed







 


Flaxseed / Linseed ปอ,ป่าน พืชจำพวก Linum
- พืชที่ให้เส้นใยลำต้น ทำผ้าลินิน
class="Normal__Char"> 

เนื้อในของเมล็ดแฟลกซ์ เมื่อแช่น้ำในระยะเวลา
30 นาที เป็นต้นไป สามารถที่จะอุ้มน้ำได้
8 เท่า ของน้ำหนักตัวเอง  

Flax สามารถป้องกัน/ต่อต้าน มะเร็ง
โรคหัวใจ โรคระบบย่อยอาหาร
โรคความดันโลหิตสูง โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ
โรคท้องผูก .....และยังช่วยปรับระดับฮอลโมนในร่างกายด้วย


Flaxseed Food or Drug?? - เมล็ดแฟลกซ์เป็นอาหารหรือยา
??
 

ในจำนวนเมล็ดพืช แฟลกซ์ สามารถสกัดน้ำมันมาใช้ได้และมีมากด้วย
ไขมันชนิดดี เช่น โอเมก้า3
โอเมก้า6 ซึ่งจำเป็น แต่เราผลิตเองไม่ได้
จึงต้องหาจากอาหารต่างๆ มาเสริมโอเมก้าทั้ง
2 ตัวนี้มีส่วนช่วยให้ ฮอร์โมนprostaglandins
and elcosanoids ไปเลี้ยงสมอง ระบบประสาท
ผิวหนัง ระบบสืบพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยป้องกันเลือดข้น
และจับกันเป็นก้อน หรืออีกนัยหนึ่ง
ก็หมายถึง การควบคุมให้เลือดมีความดันตามปกติ


Flax has a long History ประวัติอันยาวนานของแฟล๊กซ์ class="Normal__Char"> 

แฟลกซ์มีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตมนุษย์มายาวนานกว่า
พันปีแล้ว 

มีรายงานการใช้แฟลกซ์เป็นอาหาร
มาตั้งแต่สมัยเบบีลอน (3000ปี
ก่อนคริสกาล) 

ในยุโรปแฟลกซ์ถือเป็นอาหารที่ใช้ในการบำรุงกำลัง
มานานกาล  

แม้ในปัจจุบันนี้ ในเยอรมันจะหาร้านที่ไม่ทำขนมปังที่ทำ
"ขนมปังแฟลกซ์และไรน์"
แทบจะไม่มีเลย น้ำมันในแฟลกซ์จะทำให้ขนมปังชุ่มชื้น
และ ยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้นกลุ่มคณะที่ปรึกษาสมาคมแฟลกซ์
ของแคนาดา รายงานว่า ในเยอรมัน
การบริโภคแฟลกซ์มากกว่า 60,000ตัน
/ ต่อปี ในการใช้ทำขนมปัง +
ซีเรียว หรือเฉลี่ย คนละ 1
กิโลกรัม / ปี หรือ 3 กรัม / วัน


Mucilage เมือกจากเมล็ดแฟลกซ์
มีประโยชน์ยังไง ?? 

ทำไมคนโบราณจึงใช้ แฟลกซ์
เป็นยาระบาย? 

เปลือกนอกของเมล็ดจะมีกากมาก
ถึง 10% ของเมล็ด
 

เมื่อเปลือกนอกได้สัมผัสกับน้ำ
หรือ ของเหลว จะทำให้ขยายตัว
และ มีสภาพ ไหลลื่นเหมือนกาว


การจะใช้แฟลกซ์เป็นยาระบาย class="Normal__Char"> 

เมล็ดแฟลกซ์ทั้งเมล็ด 2 ช้อนโต๊ะ
(30 กรัม) 

น้ำร้อนเดือด 1 แก้ว 

คนให้เข้ากัน แล้วดื่ม ในขณะที่ยังไม่ขึ้นอืด  

มันจะไปอืดในท้องภายหลัง
แล้วจะช่วยระบบขับถ่าย  

ถ้าเป็นโรคท้องผูกอย่างมาก
ให้ดื่ม 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก่อนอาหาร 

อย่างไรก็ตาม การกินเมล็ดแฟลกซ์ในลักษณะนี้
ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึม
คุณค่าต่างๆได้ นอกจากเมื่อผิวของมันถูกกระเทาะ  

นอกจากนี้เมล็ดแฟลกซ์ยังสมารถเป็นตัวสำคัญในการทำหน้าที่
รักษาลำไส้ / ระบบย่อยอาหาร
ที่เกิดจาก การรับประทานยาปฎิชีวนะ
ยาคุมกำเนิด ยาที่ใช้ใน คีโมธาราปี
หรือ ผู้ป่วยที่ใช้ยายบางชนิดเป็นเวลานานๆๆ
ซึ่งจะทำให้ท้องผูก หรือกลัวว่าจะมีสารตกค้างอยู่ 


Dr. Ernst Schneider กล่าวว่า ลำไส้ของผู้ป่วยที่ต้องฉายคีโมธาราปี
จะกลับสู่สภาพเดิม ได้เร็วขึ้น
เมื่อใช้เมือกแฟลกซ์ช่วย
หรือคนไข้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร
เมือกแฟลกซ์จะเป็นตัวเคลือบ
ทำหน้าที่เหมือน วอลเปเปอร์
เลยทีเดียว


Fiber เส้นใยอาหาร class="Normal__Char"> 

เมื่อ 60 ปีก่อน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า
ไฟเบอร์-เส้นใยอาหาร ไม่มีคุณค่าอาหาร
ฉนั้นจึงไม่มีความสำคัญ จะเห็นได้จาก
การสีธัญพืชต่างๆ จะเหลือส่วนที่เป็นข้างในไว้เท่านั้นแต่หลังจากนั้น
พวกเขาก็ได้เริ่มสนใจกับประชากรที่อาศัยอยู่ในประเทศด้อยพัฒนา
เขาเหล่านั้นกินอาหารที่มีไฟเบอร์-เส้นใยอาหารสูง
และไม่มีปัญหา ท้องผูก หรือ
โรคอื่นๆๆ เช่น Crohn's diease, diverticultitis
และ คอเลสตอรอลสูง ซึ่งจะพบมากในประเทศที่เจริญทางอุตสาหกรรม
ในทันทีที่ค้นพบนั้น ผู้คนก็ให้ความสนใจกับคำนี้ทีเดียวไฟเบอร์ในแฟลกซ์เป็นส่วนประกอบของเปลือก
และมีส่วนผสมของน้ำมันที่เนื้อของมัน
ร่างกายของเราไม่อาจย่อยสลายได้หมด
แต่แบคทีเรียในลำไส้ใช้เป็นอาหารได้


แฟลกซ์มีไฟเบอร์ด อยู่
2 ชนิด
 

- soluble ไฟเบอร์ดที่ละลายได้ 

- insoluble ไฟเบอร์ที่ละลายไม่ได้


soluble ไฟเบอร์ที่ละลายได้ class="Normal__Char"> 

จะมีอยู่ถึง 1/3 ของเมล็ดแฟลกซ์
มีส่วนช่วยลดคอเลสโตรอล และ
ปรับระดับกลูโคสในเลือด จึงเป็นข่าวดีสำหรับคนที่เป็นเบาหวาน


insoluble ไฟเบอร์ที่สารละลายไม่ได้ class="Normal__Char"> 

มีอยู่ประมาณ 2/3 ของไฟเบอร์ทั้งหมด
ไฟเบอร์ตัวนี้ จะทำความสะอาดลำไส้
คล้ายไม้กวาด ทำให้ท้องไม่ผูก


หนังสือ British Journal of Nutrition ได้รายงานว่า
กลุ่มคนที่ลองกินแฟลกซ์ซีด
ภายใน 4 อาทิตย์ มีน้ำตาลในเลือดลดลงถึง
27 % ส่วนระดับคอเลสโตรอลก็ลดลง
7% และการขับถ่ายก็ดีขึ้นด้วย
เพราะไฟเบอร์ดในแฟลกซ์เป็นตัวช่วยทำให้ขับของเสียออกเร็ว
ไม่มีการหมักหมม จนเป็นท๊อกซิก
ซึ่งอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของ
"มะเร็งลำไส้ใหญ่" ได้


Lignans ฮอร์โมนชนิดหนึ่งในแฟลกซ์ class="Normal__Char"> 

Lignans เป็นพืชชนิด estrogens (phytoestrogens)
ซึ่งอาจจะเป็นตัวสำคัญ ในการป้องกัน
มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งมดลูก และ มะเร็งลำไส้ใหญ่


ฮอร์โมนในพืชชนิดนี้ นอกจากจะทำตามที่กล่าวมาแล้วนั้น 
ยังเป็นตัวช่วยให้ กระดูก
และเนื้อเยื่อแข็งแรง ทำงานตามปกติ
ป้องกันมะเร็งถุงน้ำดีอีกด้วย
!!!


Lignans ยังช่วยขับ estrogen ส่วนเกินให้ออกจากร่างกายด้วย
ทำให้ชะลอการเติบโตของ tumor
- เนื้องอก เป็นที่รู้กันว่า
ผู้หญิง แมกซิกัน ญี่ปุ่น
และจีน กินอาหารที่มีไฟเบอร์
และ Lignans สูง มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมน้อยกว่า
หญิงที่บิรโภคอาหารแบบอเมริกายิ่งกว่านั้นแล้ว
เหล่านักวิจัยเชื่อว่า lignans
มีส่วนช่วยเหลือ / ป้องกัน
โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
และ อาจรวมถึง โรคหืดหอบ ทั้งยังช่วยป้องกัน
แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อราได้อีกด้วย....ทั้งยังช่วยลดโอกาส
การเป็นโรคกระดูกพรุน - osteoporosis
และ โรควัยทอง – maenopause


The Wonder Grain มีอะไรพิเศษในแฟลกซ์ class="Normal__Char"> 

แฟลกซ์ มีวิตามิน A, B, B2, C, D และ
E และแร่ธาตุอีกมาก น้ำมันที่มีอยู่ในแฟลกซ์ก็มีมากถึง
35 % - 45% แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูชนิด
ประเภท ดินฟ้าอากาศที่ปลูก
ของแฟลกซ์พันธ์นั้นๆด้วย


An Almost Perfect Protein ควรใช้อะไรกระตุ้นโปรตีนในเมล็ดแฟลกซ์
?? 

แฟลกซ์มีโปรตีนเกือบครบทุกชนิดที่ร่างกายต้องการ
กรดอะมิโน ในแฟลกซ์จะผสมกันได้ดีกับส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์
เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว หรือ
คอตเต๊ตชีส (cottage cheese) 

ฉะนั้นเมื่อเราบริโภคเมล็ดแฟลกซ์
กับผลิตภัณฑ์นม จะทำให้ร่างกายได้รับ
โปรตีน ครบถ้วน


Interesting Discoveries สิ่งมหศจรรย์ที่ค้นพบ class="Normal__Char"> 

Golden Flax จะมีคุณค่าและราคาแพงกว่า
Brown Flax เพราะขนาดใหญ่กว่า เปลือกอ่อนกว่า
และ รสชาติดีกว่า แต่จะให้น้ำมันน้อยกว่าแฟลกซ์สีน้ำตาล
(ถ้าเอามารีดน้ำมัน)  

แฟลกซ์เหลืองทองนิยมนำมาใส่
ซีเรียล (Cereals) ขนมอบ  

การจะใส่ใน ซีเรียส (Cereals) ....
ควรจะกระเทาะ หรือ บุบให้แตกเล็กน้อย
แต่ไม่ต้องถึงขนาดให้เนื้อและน้ำมันแตกออกมา


ข้อควรระวังในการซื้อเมล็ดแฟลกซ์ป่น


ไม่ควรจะซื้อแฟลกซ์บด/ป่น 
มาใช้ เพราะการบด/ป่นละเอียดไว้ล่วงหน
class="Normal__Char">้า จะทำให้น้ำมันแฟลกซ์
เกิดการออกซิไดซ์ (น้ำมันปนกับออกซิเจน)
ทำให้เหม็นหืนได้ ความร้อน
แสงสว่าง และอากาศ จะเป็นตัวทำให้เกิดการออกซิเดชั่น
น้ำมันที่เหม็นหืน ไม่ควรใช้บริโภคเพราะเป็นพิษ
และ เป็นตัวทำให้เกิดมะเร็งได้ขณะนี้ในตลาดมีเมล็ดแฟลกซ์บด/ป่นขาย
ห่อด้วยฟอยด์ศูนย์อากาศ บรรจุภัณฑ์เหล่านี้จะสามารถเก็บรักษาเมล็ดแฟลกซ์ให้สด
ควรดูวันหมดอายุ ไม่น้อยกว่า
3 เดือน เมื่อเปิดห่อแล้ว ต้องเก็บในขวดที่ปิดสนิท
เข้าตู้เย็นไว้ และต้องใช้ให้หมดภายใน
2 อาทิตย์ เมล็ดแฟลกซ์ที่ผลิตจากท้องถิ่นที่มีอากาศเย็นจะมีคุณภาพของน้ำมันโอเมก้า
3 มากกว่า  

อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยง
น้ำมันที่ผ่านการ "refined"
- กลั่นกรอง ด้วยความร้อนสูง


Flax Oil น้ำมันแฟลกซ์


น้ำมันแฟลกซ์เป็นน้ำมันที่มีกรดไม่อิ่มตัวสูง
จึงเหมาะกับร่างกายเรามาก
class="Normal__Char"> แต่เพราะไขมันไม่อิ่มตัวจะดูดออกซิเจนเร็วมาก
ทำให้มีกลิ่นหืน เราจึงต้องใช้น้ำมันนี้
ด้วยความระมัดระวัง คือต้องเก็บในขวดทึบ
อากาศและแสงผ่านได้น้อย การปรุงอาหารที่เหมาะกับน้ำมันแฟลกซ์นี้
คือ อาหารที่ไม่ต้องผ่านความร้อน
เช่น น้ำสลัด สำหรับผักสด
สลัดมันฝรั่ง สลัดแครอท สลัดกะหล่ำปลีขาว-แดง
น้ำมันแฟลกซ์ควรจะเลือกประเภทที่สกัดโดยไม่ผ่านกรรมวิธีและความร้อนสูง
(coldpress)  

ไม่ควรซื้อ เมื่อผ่านการผลิตมาแล้ว
6 เดือน ควรเลือกซื้อขวดเล็ก
และใช้ให้หมดภายใน 3 อาทิตย์
หลังเปิดขวดแล้ว


การใช้เมล็ดแฟลกซ์


ตามร้านขายอาหารออร์เกนิค  class="Normal__Char">อาหารสุขภาพ
จะมีแฟลกซ์บรรจถขายหลายขนาด
ตั้งแต่ เล็ก กลาง ใหญ่ ทางที่ประหยัดที่สุดคือ
ซื้อห่อใหญ่ แล้วเก็บรักษาในขวด/โถ
ที่ปิดกันอากาศ เก็บไว้ในตู้เย็น
เมล็ดแฟลกซ์มีหลายชนิด ให้เลือก
ส่วนใหญ่จะเป็น
 

 

- เมล็ดสีน้ำตาลแดง ขนาดเล็ก
เกือบแบน รูปวงรีและแหลมด้านนึง
ขนาดจะใหญ่กว่าเมล็ดงา และมีกลิ่น/รสคล้ายถั่ว 

 

- เมล็ดสีเหลือง/ เหลืองทอง
เมล็ดจะใหญ่กว่าเล้กน้อย
เปลือกจะอ่อนกว่า กลิ่นและรสจะเหมือนกัน
เหมาะในการผสมกับซีเรียล


ประโยชน์ของการกินเมล็ดแฟลกซ์และน้ำมันแฟลกซ์ class="Normal__Char"> 

จะเป็นการเปรียบเทียบระหว่าง
ผลทางชีวเคมี กับ ผลทางการวิจัย
เทียบกันได้ดังนี้...


 


ผลทางชีวเคมี class="Normal__Char"> 

1. ปรับกล่มไขมันในร่างกายให้เป็นปกติ 

2. ปรับความสมดุล ของโพรสแกลนดินส์ 

3. ลดความอยากอาหาร, ลดการดูดซึมน้ำตาลกลูโคสในระบบอาหาร 

4. รักษาระดับอินซูลิน - น้ำตาล
ในเลือด 

5. มีประสิทธิภาพทำให้เกิดภูมิคุ้มกันร่างกาย 

6. เพิ่มเส้นใยอาหาร และอโรบิดแบคทีเรียในการย่อยอาหาร 

7. ลดคอเลสโตรอล และ ไขมันในเลือด 

8. ช่วยให้ระบบเมทาโบลิซึม
ทำงานได้ดีขึ้น 

9. เพิ่มระดับ estrogen ในเลือด 

10. ส่งเสริมการทำงานของตับ


ผลทางการวิจัย class="Normal__Char"> 

1. ผิวอ่อนนุ่ม ผมเงา มือนิ่ม
ความแข็งแกร่งอดทนของร่างกายดีขึ้น
มีกำลังวังชา กระฉับกระเฉง 

2. ปรับกล้ามเนื้อให้เข้าสู่สภาพปกติ
เช่น ช่วงก่อน-หลังมีรอบเดือน
หรือ ช่วงการเข้าสู่วัยทอง 

3. ยับยั้งความอยากกินอาหารจำพวกที่มีคาร์โบไฮเดรตได้ 

4. ป้องกันความอยากกินของหวาน
ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ทนมากขึ้น 

5. ช่วยลดอาการอาหารเป็นพิษ
กับโรคบางชนิดได้ผลดียิ่งขึ้น 

6. ช่วยกระตุ้นให้แบคทีเรียในกระเพาะอาหารทำหน้าที่กำจัดแก๊ซ
ระบบการขับถ่าย ทวารหนักอักเสบ 

7. ระบบสูบฉีดโลหิตทำงานได้ดีขึ้น
ทำให้สมองทำงานดีขึ้น คิดอะไรได้ว่องไว 

8. ช่วยให้ร่างกายสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันได้
ร่างกายทนต่ออากาศหนาว/เย็น
ได้ดีขึ้น 

9. ช่วยลดปัญหาต่างๆ ในช่วงเข้าสู่วัยทอง 

10. ลดและ รักษาระดับการสูบฉีดเลือด


 


 


วิธีผสมแฟลกซ์ในอาหาร 
ควรกิน แบบดิบๆ 1 ช้อนโต๊ะ
/ วัน


สำหรับอาหารเช้า 

- เติมในข้าวต้ม ในซีเรียลแบบร้อน
ในโยเกิร์ต ในน้ำเปรี้ยว


สำหรับซุป 

- เมล็ดแฟลกซ์ 1-2 ช้อนโต๊ะ + น้ำ
2-3 ถ้วย 

นำไปต้มจนเดือด ยกลง กรองน้ำออก
แล้วนำน้ำที่ได้ ไปผสมในน้ำซอส,
หรือน้ำราดผักนึ่ง......อาจจะใช้น้ำที่ได้
2-3 ช้อนโต๊ะ ผสมในน้ำซุปไก่ที่เตรีมไว้ก่อนแล้ว
จะทำให้ได้น้ำซุปที่ข้นขึ้น
และมีประโยชน์มาก


โปรดจำไว้ว่า อย่าต้มเมล็ดแฟลกซ์ป่น
แต่ใช้เติมลงในซุปที่ยกลงจากเตาและพักไว้
5 นาทีแล้ว เมล็ดแฟลกซ์ที่เหมาะจะใช้
ควรจะเป็นแบบสีเหลืองทอง
สำหรับคนที่กินเจ หรือ มังสวิรัต
แนะนำให้แช่เมล็ดแฟลกซ์ในน้ำ
กรองเอาน้ำนั้นไปใช้ในลักษณะ
เจล แทนไข่ ในตำราต่างๆได้


การทำขนมปัง โดยการใส่เมล็ดแฟลกซ์ class="Normal__Char"> 

การทำขนมปังอาจผสมเมล็ดแฟลกซ์ลงไปด้วย
ตามที่แนะนำมากับตำรานั้นๆ
ถ้าต้องการจะใช้ทั้งเมล็ด
(Whole Flaxseed) ต้องนำไปแช่น้ำ อย่างน้อย
1 ชั่วโมง ก่อนนำมาผสมกับเครื่องปรุงอื่นๆ
เพราะน้ำที่อุ้มเมล็ด จะช่วย
ลดความร้อนในขณะอบ ไม่ทำให้เมล็ดไหม้
เมล็ดแฟลกซ์ก็จะไม่เสียโอเมก้า
3 และ คุณสมบัติอื่นๆในตัว


ถ้าคิดตามหลักสมัยเด็กที่เราเรียนมา 
จุดเดือดของน้ำจะต่ำกว่าจุดเดือดของน้ำมัน
น้ำจะเดือดที่ 100 องศา C ส่วนน้ำมันจะเดือดที่อุณหภูมิสูงกว่า
และถ้า ยังจำได้ในบทต้นๆที่บอกไว้ว่า
เมล็ดแฟลกซ์สามารถอุ้มน้ำได้ถึง
8 เท่าขอน้ำหนักตัว......ฉะนั้นเมื่อเราอบขนมปัง
ที่อุณหภูมิสูงและนาน น้ำมันในเมล็ดแฟลกซ์จะยังอยู่
ไม่สูญสลาย เพราะถึงแม้ว่า
น้ำที่ถูกอุ้มไว้จะระเหยไปบ้าง
แต่ไม่ทั้งหมด


เมล็ดแฟลกซ์สามารถใช้แทนแป้ง(ในขนมปัง)
ได้ถึง 10 - 30%  

ถ้าใส่มากขนมปังที่ได้จะมีเนื้อแน่น
ถ้าใส่น้อยก็จะได้ขนมปังที่เบาขึ้น
class="Normal__Char"> 

การทำขนมปังเมล็ดแฟลกซ์กับโยเกิร์ต/นมเปรี้ยว
จะทำให้ขนมปังที่ได้มีรสดี
มีกลิ่นหอมคล้ายถั่ว (nutty flavor) 

นอกจากนี้ยังสามารถผสมแฟลกซ์ป่น/บด
กับนมเปรี้ยว / โยเกิร์ต ในวอลเฟอร์
แพนเค้ก ได้อีกด้วย


Skin Care สำหรับผิวพรรณ class="Normal__Char"> 

เมล็ดแฟลกซ์ ยังสามารถช่วยปรับสภาพผิวหน้า
ผิวมัน ผิวแห้ง และมีจุดด่างดำ
เหมาะกับวัยรุ่นที่มีปัญหาเรื่องผิว
สามารถใช้วิธีการรักษาด้วยเมล็ดแฟลกซ์ดีกว่า
การใช้ผลิตภัณฑ์เคมีต่างๆ


วิธีทำมาสค์เมล็ดแฟลกซ์ class="Normal__Char"> 

1 ส่วน เมล็ดแฟลกซ์ป่น 

1ส่วน Wheat bran ป่น 

ใส่ในขวด สีชา (กั้นแสง) ปิดฝาให้แน่น


วิธีเตรียม 

ตักส่วนผม 2 ช้อนโต๊ะ ใส่ชาม
เติมน้ำร้อนพอควร คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน


วิธีใช้ 

1. ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า แล้วเอามาสค์ทาหน้า
คลึงเบาๆให้ทั่ว 

2. พักไว้ 5-10 นาที น้ำมันในเมล็ดแฟลกซ์จะช่วยสมานผิว
ช่วยให้ผิวส่วนที่แห้ง ชุ่มชื่นขึ้น 

3. ล้างออกด้วยน้ำ ซับหน้าให้แห้ง 

สามารถใช้แทนสบู่ ล้างหน้าได้ทุกวัน
หรือ จะใช้เป็นสครับขัดตัวก็ได้


การใช้เมล็ดแฟลกซ์เป็นยาพอก 
ยาสมานผิว
 

เมล็ดแฟลกซ์ที่กระเทาะเปลือกแล้ว
สามารถทำเป็นยาพอกแผลได้
ในกรณีที่ กล้ามเนื้อปวดเมื่อย
พกช้ำ ผิวที่โดนความร้อนลวก
บริเวณที่ปวดเพราะโรคไขข้ออักเสบ
(หนองแตก) แผลพุพอง



  1. class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> ....... class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> 

    2. class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char">ท.... class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> 

    3. class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char">
    (
    class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char">, class="Normal__Char">ด) class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char">...... class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char"> class="Normal__Char">


วิธีทำ


1. เมล็ดแฟลกซ์ป่น 1 ถ้วยตวง class="Normal__Char"> 

2. เติมน้ำเดือดให้ท่วม ทิ้งไว้
10 นาที 

3. เมื่อผสมกันดีแล้ว เอามาละเองให้ทั่วผ้าขาวที่เตรียมไว้
(ตามขนาดที่เหมาะกับบริเวณที่จะพอก
- รวมด้านที่จะพัก ขวา/ซ้าย/บน/ล่าง 

4. โดยพับด้านขวามากึ่งกลาง
แผ่นแฟลกซ์ละเลงไว้ 

5. พับด้านซ้ายมาจดตรงกลาง 

6. พับด้านบน-ล่าง มาจดตรงกลาง
(ให้เกยกันบ้างก็ได้) 

7. นำไปวางประคบ บริเวณที่ต้องการ
อาจจะใช้ผ้าอีกผืนห่อ ผูกให้ติดกับอวัยวะนั้นๆๆ 

8. ห่อไว้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
หรือ ข้ามคืน













ไม่มีความคิดเห็น: